บานาบัส มังกูนิโอ (บัส) แพ็ตทริค มังกูนิโอ (ทริค)

คู่แฝดของแพ็ททริค มังกูนิโอ ที่มีโอกาสทำงานด้านถ่ายแบบเหมือนกัน แต่เมื่อถามถึงเรื่องความสนใจพิเศษตอนนี้ก็ต้องเป็นเรื่องการออกกำลังกายเหมือนคู่แฝดนั่นแหละ แต่แถมมานิดนึงว่า เรื่องดนตรีผมก็สนใจครับ ทั้งทริคและบัสเรียนที่เดียวกันและสาขาวิชาเดียวกัน คู่แฝดคู่นี้มีความคิดที่คล้ายๆ กันหลายอย่างอีกด้วย เป็นแฝดเหมือนที่ออกจะชัดเจน เมื่อถามเรื่องความใฝ่ฝันของตัวเองก็ตอบมาเหมือนกันอีกว่า อยากทำงานหาเงินสร้างฐานะของตัวเอง แต่พิเศษของบัสก็คืออยากทำงานในวงการบันเทิงครับ
บัสอาจจะเฮฮาตามประสา แต่ก็มีมาดขรึมเช่นเดียวกับคู่แฝด และสิ่งที่และสิ่งที่เค้าประทับใจมากๆ ในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การได้เดินแบบครั้งแรกนั่นแหละ รวมทั้งยังเป็นงานที่ทำให้ได้เงินค่าขนมเป็นของตัวเองก็เลยตื่นเต้น และน่าตลกมาก ว่า คู่แฝดนี้เหมือนกันชนิดที่ต้องงง เพราะแม้แต่เรื่องโดนแมาบ่นก็เป็นเรื่องเดียวกัน ก็คือเรื่องการตื่นสายและไปโรงเรียนสายจนคุณครูดุ ซึ่ง 2 คนนี้ต่างคนก็ต่างตอบคำถามแต่ก็ตอบได้ตรงกันหลายข้อจนน่าทึ่ง ทริกนั้นบอกแล้วว่า ตอนนี้ไม่สายแล้วนะ แต่เมื่อถามถึงภาพยนตร์เรื่องโปรด บัสบอก Season Change ครับ เพราะดูแล้วรู้สึกดี อาจจะต่างกับทริคแต่เชื่อว่าจริงๆ แล้ว 2 คนนี้ก็คงชอบอะไรที่เหมือนกันนั่นแหละ

สำหรับในปีใหม่นี้ บัสตั้งใจกับตัวเองว่าจะปรับปรุงสิ่งที่ตัวเองบกพร่องหลายๆ อย่าง ซึ่งเจ้าตัวไม่ยอมยอกว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่ตั้งใจเลยว่าจะต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ได้เพราะเขาก็คิดเหมือนทริคที่ไม่อยากจะทำอะไรแล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลัง สู้ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่าจะต้องเสียเวลาคร่ำครวญอยากเปลี่ยนแปลงอดีตและสิ่งหนึ่งที่เขาตั้งใจอย่างแม่นมั่นก็คือ อยากจะตั้งใจเรียนมากว่าเดิมให้มากขึ้น
***บทความจากหนังสือ lips

เมื่อถามถึงบุคคลในดวงใจ ทริคบอกได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่า คุณแม่ซิครับ เพราะท่านเลี้ยงดูลูกๆ ได้มาจนทุกวันนี้ ย้อนกลับไปว่าสิ่งนี้นำให้เขารู้สึกภูมิใจในตัวเองมากๆ เมื่อหาเงินได้จากงานโฆษณาและเดินแบบเพราะเหมือนกับเค้าได้แบ่งเบาภาระของแม่ด้วย เมื่อถามว่าอยากจะแก้ไขสิ่งใดในปีใหม่ไหม? ทริคบอกว่า เขาประทับใจกับภาพยนตร์เรื่อง Butterfly Effect ซึ่งสอนให้เขาเข้าใจว่า แทนที่จะกลับไปแก้ไขอะไรที่เกิดขึ้นไปแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรือถ้าเป็นก็ต้องมีผลกระทบอะไรต่อเนื่องที่อาจจะดีหรือไม่ดีตามมา เรามาทำทุกวันให้ดีที่สุดจะดีกว่า เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดแก้ไขสิ่งใดๆเลย

***บทความจากหนังสือ lips
.