contagion สัมผัสล้างโลก

contagion สัมผัสล้างโลก
เห็นการวิจารณ์ ของนักวิจารณ์หนังเรื่องนี้มาเยอะ เลยไปหามาดูบ้าง และทำให้ทราบว่า เรามองสิ่งที่ดูนำเสนอแตกต่างกัน ในมุมมองของนักวิจารณ์ และคนดูไม่เหมือนกันซะทุกคนไป
แทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คืองานกำกับของสตีเวน โซเดอเบิร์ก คนที่ทำหนัง ซื่งผลงานลำดับถัดมาคือ Haywire (2011) และ Magic Mike (2012) ได้แย่ และห่วยแตกมาก เพราะพวกเค้าไม่เคยดู The Chipppendales Murder ที่เกรดต่ำกว่าแต่เล่าเรื่องได้ดีกว่าหลายเท่า
เข้าเรื่องกัน เท่าที่ดู contagion จบ! เป็นหนังที่ โซเดอเบิร์ก ต้องการสื่อสารผ่านตัวละครหลัก 8 คน (แต่ให้เครดิตเป็นโปสเตอร์แค่ 6 คน) ว่าด้วยสถานการณ์ถ้าเกิดไวรัสที่สัมผัสล้างโลกได้?! คนทั้ง8 จะปฏิบัติตนเช่นไร?
-คนแรก เป็นหัวหน้าทีมขององค์กรรัฐ ปกปิดข่าวและช่วยคนใกล้ตัวและ2,3,4 ตามลำดับความสำคัญ
-คนที่2 Dr. แสนสวย มุ่งสู่แดนไวรัสและตายคาเตียงศพไร้ญาติ เพราะงานนี้เธอมองหาคนช่วยไม่ได้เลย
-คนที่3 นักพัฒนาเซรุ่ม ที่กำลังจะถูกขโมยรางวัลโนเบลตรงหน้า แต่เธอไม่แยแสรางวัล ..นอกจากพ่อที่นอนป่วย
-คนที่4 หนุ่มหล่อ(ผู้มีภูมิคุ้มกัน) พ่อของเด็กสาวที่ฮอร์โมนแตกพล่าน ในขณะที่เมียก็นอกใจและพาไวรัสเข้าสหรัฐ
-คนที่5 นักข่าวblogต๊อกต๋อย สร้างกระแสให้ตัวเองดังและทำเงินจากการกุข่าวว่าดอกไม้(บางชนิด)รักษาโรคได้
-คนที่6 นักวิจัยสาว ผู้ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกันแลกกับเซรุ่ม เธอดูไม่เต็มใจ แต่ไม่ขัดขืน ..เธออยากช่วย!
-คนที่7 เมียของหนุ่มหล่อ พาโรคร้ายเข้าสู่สหรัฐ และเธอนอกใจสามี
-คนที่8 ชายนิรนาม(จำชื่อไม่ได้)ของรัฐ ที่พยายามจับข้อเท็จจริงจากนักข่าวชาย มีส่วนได้ส่วนเสียกับนักข่าวและรัฐบาลพอกัน
บุคคล8 คน จิตใจที่แตกต่างในสภาวะไวรัสคร่าชีวิตคนนับล้าน
ความเห็นแก่ตัว เห็นใจ เห็นประโยชน์ เห็นคุณค่า นี่ต่างหากที่ โซเดอเบิร์ก ต้องการเอาตัวละครมาถมทับหักล้าง และบอกว่า คนเราดีชั่วมีหมด ..แต่ทุกคนมีไม่เท่ากัน
แนะนำต้องดูพากษ์ไทยอย่างเดียว และหยุดฟังบางประเด็นถึงจะรู้ที่มาที่ไปมากกว่าการดูบรรยายอักษรไทย หนังวิ่งอืดตอนแรกและค่อยๆวิ่งเร็วในช่วงไวรัสล้างเมือง หนังมีข้อคิดจากตัวละครที่ต้องนำมาเปรียบเทียบในสถานการณ์เดียวกันด้วยนิสัยที่แตกต่าง ..นั่นคือประเด็นหลักที่ โซเดอเบิร์ก นำเสนอผ่านตัวละคร มิไช่เรื่องไวรัส!
- Posted using BlogPress from my iPad